ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

Austenitic grades of stainless steel

เกรดสเตนเลสออสเทนนิติก แบ่งออกเป็นซีรีส์ 200 และ 300 โดยมีโครเมียม 16% ถึง 30% และนิกเกิล 2% ถึง 20%   สำหรับคุณภาพพื้นผิวที่เพิ่มขึ้นความสามารถในการขึ้นรูปการกัดกร่อนที่เพิ่มขึ้นและความต้านทานการสึกหรอ  ไม่สามารถชุบแข็งได้โดยการอบชุบด้วยความร้อน เป็นสเตนเลสที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเนื่องจากมีความสามารถในการขึ้นรูปได้ดีเยี่ยมและทนต่อการกัดกร่อน สเตนเลสเกรดออสเทนนิติกทั้งหมดไม่เป็นแม่เหล็ก ใช้สำหรับตกแต่งรถยนต์ , เครื่องครัว , อุปกรณ์อาหารและเครื่องดื่ม , อุปกรณ์แปรรูปและการใช้งานในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย สเตนเลสเกรดออสเทนนิติกได้แก่ JIS Standard( Japan ) SUS201,202 SUS301,302,303,303Se,303Cu,304,304L,304N1,304N2,304LN,304J3,305 SUS309S,310S,316,316L,316LN,316F,321,347 SUSXM7 American Standard 201,202 301,302,303,303Se,304,304L,304LN 305,309S,310S,316,316L,316N,316LN,321,347,304Cu

สิ่งที่ต้องพิจารณา 6 ประการเมื่อจะเลือกเกรดสแตนเลสสตีลมาใช้งาน

สแตนเลสสตีลเป็นที่รู้จักกันดีในด้านความต้านทานการกัดกร่อนเป็นหลักในการใช้งานที่หลากหลายด้วยเกรดที่มากมายทำให้สามารถรองรับการใช้งานที่หลากหลายในอุตสาหกรรมต่างๆอย่างไรก็ตามการที่มีเกรดมากมาย ก็ต้องมีความรู้ในการเลือกเกรดที่เหมาะสมกับงานด้วย นี่คือ 6 สิ่งที่ต้องพิจารณา 1.     จำเป็นต้องมีการเชื่อมหรือไม่ ? 2.     จำเป็นต้องมีการกลึงหรือไม่ ? 3.     ต้องการความต้านทานการกัดกร่อนประเภทใดและต้องการเท่าใด? 4.     จำเป็นต้องได้รับการชุบแข็งด้วยความร้อนหรือไม่ ? 5.     ข้อกำหนดด้านความแข็งแรงคืออะไร ? 6.     ประเภทของชิ้นงานที่จะผลิตคืออะไร? 1.     จำเป็นต้องมีการเชื่อมหรือไม่ ? การเชื่อมสแตนเลสนั้นแตกต่างจากการเชื่อมเหล็กกล้าคาร์บอนมากและอาจนำไปสู่ปัญหาเช่นการกัดกร่อนตามขอบเกรนการแตกเมื่อร้อนและการกัดกร่อนจากความเครียดสแตนเลสที่เชื่อมได้ดีที่สุดมักอยู่ในกลุ่มออสเทนนิติกเมื่อทำกาเชื่อมสแตนเลสออสเทนนิติกเกรดเช่น 304 L  หรือ 347 เกรด 304 L  ...